Thursday, May 21, 2020

Saxenda ปากกาลดน้ำหนัก

Saxenda หรือ Liraglutide เป็นยาฉีดในกลุ่ม GLP-1 analogue ที่ได้รับข้อบ่งใช้ ในการลดน้ำหนักควบคู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 

Saxenda



โรคอ้วนนั้นส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจหลายอย่าง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ไขมันพอกตัก (Fatty liver) ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Obstructive sleep apnea หรือ OSA) ข้อเข่าเสื่อม กระดูกสันหลังเสื่อม รวมถึงภาวะซึมเศร้า อาจสร้างความไม่มั่นใจในการเข้าสังคม 

ดังนั้นการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนย่อมส่งดีต่อร่างกายและจิตใจแน่นอน แต่หลายครั้งที่เราพยายามลดน้ำหนักด้วยการคุมอาหารและออกกำลังกายแต่ยังไปไม่ถึงเป้าหมายเสียที ทำให้เกิดความท้อแท้บางคนถึงกับเลิกน้ำหนักไปเลยก็มี ดังนั้นการใช้ยาลดน้ำหนักหรือยาลดความอ้วนจึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดน้ำหนักให้ถึงเป้าหมาย 

สำหรับประเทศไทยมียาลดน้ำหนักหรือยาลดความอ้วน ประเภทหลักๆ คือ (1) Phentermine (Panbesy) เป็นยารับประทานเพื่อลดความอยากของอาหาร (2) Oristat (Xenical) เป็นยารับประทานลดการดูดซึมของไขมัน (3) Saxenda (Liraglutide) เป็นยาฉีดในกลุ่ม GLP-1 analogue ที่ได้รับข้อบ่งใช้ ในการลดน้ำหนักควบคู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 

Saxenda (Liraglutide) เป็นยาฉีดในชั้นไขมันในรูปแบบปากกา ที่ใช้ในการลดน้ำหนักนั้นต้องใช้ในขนาด 3 มิลลิกรัมต่อวันจึงจะได้ผลในการลดน้ำหนัก 5-10% ของน้ำหนักเดิม เป็นเวลาอย่าน้อย 12 สัปดาห์หรือ 3 เดือน ดังนั้นถ้าใช้ปากกาลดน้ำหนัก Saxenda แล้วน้ำหนักลดไม่ถึง 5% ของน้ำหนักตั้งต้นควรหยุดฉีดยาเพราะนอกจากสิ้นเปลืองแล้วยังเจ็บตัวอีกด้วย 

การใช้ยาฉีด Saxenda ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์เฉพาะทางโภชนบำบัด หรือ อายุรแพทย์ต่อมไร่ท่อ ไม่ควรหาซื้อยามาฉีดเองเพราะอาจไม่ได้ประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก เกิดผลข้างเคียงจากยาได้ ข้อบ่งใช้ยา Saxenda คือ
(1) มีดัชนีมวลกาย (Body mass index, BMI) เกิน 30 กิโลกรัม/ตารางเมตร (2) มีดัชนีมวลกาย (Body mass index, BMI) เกิน 27 กิโลกรัม/ตารางเมตร ร่วมกับโรคร่วมเช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวานชนิดที่ 2 ไขมันในเลือดสูง เป็นต้น 

ข้อห้ามในการใช้ ปากกาลดน้ำหนัก Saxenda  เช่น ในเด็ก หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งไทรอยด์ (Medullary Thyroid Cancer) หรือ Multiple Endocrine Neoplasia syndrome Type 2 (MEN 2) 

ผลข้างเคียงของ ปากกาลดน้ำหนัก Saxenda 
- พบได้มากกว่า 10% เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องผูก ปวดศีรษะ น้ำตาลต่ำ(ในกรณีใช้ร่วมกับยาเบาหวานบางชนิด)
- พบได้ 1-10% เช่น ไม่อยากอาหาร เวียนหัว อ่อนเพลีย ปวดท้อง ท้องอืด กรดไหลย้อน เวียนหัว ผายลมบ่อย ปากแห้ง นอนไม่หลับ ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ติดเชื้อในทางเดินอาหาร บวมแดงอักเสบบริเวณที่ฉีดยา วิตกกังวลเพิ่มขึ้น
- พบได้น้อยกว่า 1% ตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis) นิ่วในถุงน้ำดี (Cholelithiasis) มะเร็งไทรอยด์ทั้งชนิด Medullary และ Papillary มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ ผื่นแพ้คัน ไตวายเนื่องจากภาวะขาดน้ำจากการอาเจียนหรือท้องเสีย 

การเก็บรักษาปากกาลดน้ำหนัก Saxenda 
หากยังไม่เปิดใช้ให้เก็บในตู้เย็นอุณหภูมิ( 2 องศาเซลเซียส ถึง 8 องศาเซลเซียส) ห้ามเก็บบริเวณช่องแช่แข็ง ยาที่ยังไม่เปิดใช้มีอายุเท่ากับวันหมดอายุที่ระบุบนปสดกา
หลังจากเปิดใช้ครั้งแรกให้เก็บที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียสหรือเก็บในตู้เย็นอุณหภูมิ (2 องศาเซลเซียส ถึง 8 องศาเซลเซียส) ห้ามแช่แข็งและสวมปลอกปากกาไว้เพื่อป้องกันแสง ยาที่เปิดใช้แล้วมีอายุหนึ่งเดือน

วิธีการใช้ปากกาลดน้ำหนัก Saxenda 
ปากกาลดน้ำหนัก Saxenda เป็นยาฉีดวันละครั้ง เวลาใดก็ได้โดยไม่ขึ้นกับมื้ออาหาร โดยฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ควรฉีดยา Saxenda เวลาเดิมทุกวัน
บริเวณที่เหมาะสมในการฉีดยาที่ดีที่สุดคือหน้าท้องโดยฉีดห่างจากรอบสะดืออย่างน้อย 2 นิ้วมือหรือ 3 เซนติเมตร การดูดซึมที่หน้าท้องจะเร็วกว่าที่ต้นแขนต้นขาและก้นตามลำดับ
ควรเปลี่ยนตำแหน่งที่ฉีดโดยเว้นระยะประมาณ 2 นิ้วมือในบริเวณเดิมและกลับมาฉีดตำแหน่งเดิมได้เมื่อพ้น 4-8 สัปดาห์ไปแล้วเนื่องจากการฉีดูซ้ำตำแหน่งเดิมบ่อยครั้งในระยะเวลาใกล้เคียงกันอาจทำให้ผิวหนังบริเวณที่ฉีดยาเป็นก้อนนูนแข็งหรือรอยบุ๋ม ไม่ควรย้ายบริเวณที่ฉีดยาทุกวันเช่นย้ายจากหน้าท้องไปต้นแขนหรือต้นขาเพราะจะทำให้เวลาในการดูดซึมยาแตกต่างกันและไม่ควรนวดหรือประคบน้ำร้อนบริเวณที่ฉีดยา



เพื่อบรรเทาผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหารเช่น คลื่นไส้ ท้องเสีย ควรเริ่มฉีดยาด้วยขนาด 0.6 มิลลิกรัมวันละครั้งอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้นจึงเพิ่มขนาดยาเป็น 1.2, 1.8 และ 2.4 มิลลิกรัมขนาดละ 1 สัปดาห์  Saxenda 3 มิลลิกรัมต่อวันจะเป็นขนาดที่ได้ผลดีต่อการลดน้ำหนัก ควรตั้งควรตั้งเป้าหมายว่าถ้าฉีดยา Saxenda ในขนาด 3 มิลลิกรัมต่อวัน ควรได้น้ำหนักลดลง 5-10% ของน้ำหนักตัวเริ่มต้นในเวลา 12 สัปดาห์ ถ้าไม่ได้ผลตามเป้าหมายควรพิจารณาหยุดใช้ยา Saxenda

เรียบเรียงโดย
นายแพทย์ธีรวุฒิ (Doctor Theerawut)





1 comment:

  1. ถ้าเป็นมะเร็งไทรอยด์ใช้ปากกาลดน้ำหนัก saxenda ได้ไหมค่ะ

    ReplyDelete